Easy Run แค่ไหนดี​?

Easy Run แค่ไหนดี​?

( ยาวอีกแล้ว​ แต่ดีต่อจิตใจและการใช้ชีวิต)​

Easy Run หรือการวิ่งที่ Base เป็นการซ้อม ที่เป็นสัดส่วนมากที่สุด คือประมาณ 70-80 %

ประโยชน์ของ Easy Run มีอะไรบ้าง

  • ดีต่อกาย

ร่างกาย กล้ามเนื้อ ข้อต่อ แข็งแรง ทนการวิ่งทางไกลได้ดีขึ้น พูดง่ายๆ คือ ทำให้รถคันนี้ สมบุกสมบัน ชินต่อการวิ่งระยะไกล

  • ดีต่อใจ

ทำให้หัวใจ แข็งแรงขึ้น ความฟิตสูงขึ้น การบีบตัวหัวใจแรงขึ้น เราจะพบว่า HR เราต่ำลง และออกกำลังเหนื่อยลดลง

  • ดีต่อสุขภาพ

ลดน้ำหนัก ลดความดัน ลดไขมัน ลดน้ำตาล หรือ ลดสิ่งไม่ดีของร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง และอายุยืน

โรคที่เป็นคุมง่ายขึ้น อาจทำให้ทานยาน้อยลง หรือหยุดยาบางอย่างได้

  • ไม่อันตราย

โอกาส เกิดโรคแทรกต่างๆ โดยเฉพาะโรคหัวใจ เกิดได้ยาก เพราะเป็นการทำงานที่ไม่หนักเกินไปของหัวใจ ทำให้ดีต่อหัวใจ

วิ่ง Easy ประมาณไหนดี

ผมอยากแชร์ Easy run ของ อ ณรงค์วิทย์ แสนทอง ที่กำลังซ้อม ไปบางแสน 42 เป็นนักกีฬาใน camp ให้ฟังครับ เป็นการให้คำจำกัดความของ Easy Run ที่ดีมากๆ ครบรอบด้าน

อาจารย์บอกว่า

“คำว่า Easy Pace สำหรับผม ไม่ได้หมายถึงการวิ่งตามตัวเลข เช่น 6 นาที/กิโลเมตร #แต่EasyPace สำหรับผมคือ วิ่งแล้วชีวิตยังสุข ยังไม่ทุกข์”

คำว่าทุกข์ดูได้จากอะไร

– ต้องหายใจทางปากช่วย แสดงว่าเหนื่อยมาก

– ขาเริ่มปัดไปปัดมาหรือเริ่มสะดุดขาตัวเอง สะดุดพื้น

– ตัวเริ่มแกว่งควบคุมแกนกลางลำตัวไม่ได้

– ต้องฝืนวิ่งเพื่อรักษาความเร็วที่ต้องการ

ดังนั้น การวิ่งวันนี้ผมจึงสังเกตแค่ว่า ถ้าวิ่งแล้วยังไม่เกิดทุกข์ดังกล่าว ก็วิ่งไปเรื่อยๆ

#การวิ่งในโหมดสมาธิ

ซึ่งปกติผมก็เข้าโหมดนี้บ่อยครั้งคือ

– สมองหยุดคิด

– เหลือแค่กายกับจิต

– กายทำงานแบบอัตโนมัติ

– จิตไปจดจ่ออยู่กับจุดใดจุดหนึ่ง เช่น ลมหายใจ ก้าวที่วิ่งหรือบางครั้งอาจจะวิ่งไปเห็นเวทนา(ความรู้สึก)ของกายหยาบที่เกิดอาการตึง ล้า

ถ้าเข้าโหมดสมาธิจริงสามารถดูได้จากอัตราการเต้นของหัวใจจะนิ่งมาก พลังงานจะใช้น้อยมาก เพราะสมองถูกพักงานชั่วคราว ไม่กินแบตเยอะ

#สิ่งที่ได้เพิ่มเติมในวันนี้คือ

#การฝึกแยกกายกับจิตให้ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง

ก็ดีตรงที่ถ้ากายเจ็บจิตไม่เจ็บไปด้วย จิตแค่เห็นความเจ็บปวดของกายเท่านั้น ถ้าจิตฟุ้งซ่านกายก็ยังทำงานตามระบบอัตโนมัติ(ยังทำหน้าที่วิ่งไปข้างหน้าเรื่อยๆเหมือนระบบ Auto pilot)

– วันหนึ่งถ้าร่างกายเราพัง แย่ เจ็บป่วย การฝึกแยกจิตกับกายไว้จนเป็นนิสัย น่าจะช่วยให้เรามีชีวิตโดยที่จิตไม่ต้องทุกข์เพราะกายได้

#สมาธิเกิดได้แม้กายจะไม่นิ่ง

แต่ก่อนผมคิดว่าการทำสมาธิต้องทำให้กายนิ่งๆ จิตจะได้นิ่งด้วย แต่พอมาวิ่งสมาธิจริงๆ พบว่าการมีสมาธิของจิตไม่เกี่ยวกับว่ากายจะหยุดหรือจะเคลื่อนไหว เพราะจริงๆถ้ากายกับจิตแยกกันอิสระจริงๆ จิตจะนิ่งหรือไม่นิ่งก็ไม่เกี่ยวอะไรกับกายอยู่แล้ว จุดนี้แหละที่ผมเคยคิดว่าการนั่งสมาธิไม่เวิร์คสำหรับผม เพราะนั่งทีไรใจก็วิ่งไปวิ่งมาอยู่ดี แต่พอมาฝึกสมาธิกับการวิ่ง และแยกกายออกจากจิต แยกจิตออกจากกายได้แล้ว สมาธิเกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องไปสนใจว่ากายกำลังอยู่ในสภาวะไหน ถ้าจิตอยากรู้ก็แวะไปดูกายดูเพื่อรู้เท่านั้น ไม่ใช่ดูเพื่ออินกับกาย ไม่ต้องไปมีอารมณ์ร่วมกับกาย

ยิ่งวิ่งเข้าโหมดสมาธิมากเท่าไหร่ ยิ่งได้เรียนรู้จักตัวเอง (กาย ความคิด จิต) มากยิ่งขึ้น ไม่ได้คาดหวังว่าจะรู้อะไร ถึงเวลามันจะมาปรากฎให้เราได้รู้ด้วยตัวเอง ประมาณนี้ครับ

ณรงค์วิทย์ แสนทอง

เชื่อว่า​พวกเราแต่ละคน​ ได้ประโยชน์​จาก​ Easy​ run ต่างกัน​ ผมมักจะได้ไอเดียใหม่ๆ​ ในการสร้างงาน​ ทำธุรกิจ​ ปรับปรุงการดำเนินงานให้ดีขึ้น​ นอกจากสุขภาพที่ดี

ซึ่งสิ่งเหล่านี้​ ไม่เกิดกับผม​ ในการวิ่ง​ Speed​ session

หวังว่าเพื่อนๆ​ ก็คงได้อะไรเด็ดๆ​ จาก​ Easy​run ของตัวเอง​ ที่นอกเหนือจากสุขภาพเช่นกัน​

Cr.หมอแอร์

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า