จากผู้ป่วยโรคลิ่มเลือดปอดอุดตัน สู่นักวิ่งมาราธอน

 

จากคนที่ป่วยเป็น โรคลิ่มเลือดอุดตันที่ปอด ไม่กล้าแม้กระทั่งเดินออกกำลัง ไปสู่การวิ่งมาราธอน

Avarin Next Runner 101

พี่เดี่ยว เป็นหนึ่งในนักวิ่ง Avarin Next Runner รุ่นที่ 1

พี่เดี่ยวมีโรคลิ่มเลือดปอดอุดตัน เมิ่อ 2 ปีก่อน ทำให้เหนื่อยง่าย ความแข็งแรงหายไปจากร่างกาย  ได้ทำการรักษาผ่านไปด้วยดี แต่ความฟิตหายไป ร่างกายไม่เหมือนเดิม  พี่เดี่ยวมีความต้องการอยากกลับมาออกกำลัง อยากมาวิ่ง อยากมาแข่งอีกครั้ง ตามความสามารถตัวเองที่ทำได้

แต่ปัญหาคือ ความกังวล เกี่ยวกับการออกกำลังกาย ว่าจะเกิดข้อแทรกซ้อนไหม

Avarin เชื่อว่า ทุกคนในโลกนี้ สามารถออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรงได้ ยิ่งคนที่มีโรคประจำตัว ยิ่งต้องออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง อายุยืนยาว เพียงแต่หาจุดที่เหมาะสมของคนนั้นให้เจอ

พี่เดี่ยวจึงเป็นคนแรกๆ ที่เข้าร่วม Avarin Next Runner ทั้งปี ตั้งแต่ มกราคม

 

 

เส้นทางการเดินใน camp ของพี่เดี่ยว

1 เช็คร่างกาย เช็คหัวใจ เช็คเฉพาะโรค

พี่เดี่ยวได้ ทำการ คัดกรองแบบสอบถาม เบื้องต้น ว่าจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง

จึงทำการตรวจ Vo2 max เดินสายพาน  เพิ่มเติมเพื่อคัดกรอง โรคหัวใจ ดูเรื่องการแลกเปลี่ยน gas ของปอดว่าพร้อมออกกำลังไหม ดูหัวใจเต้นผิดจังหวะไหม พร้อมในการออกกำลัง ในการวิ่ง ในการแข่งอีกไหม

ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ร่างกายพร้อม หัวใจพร้อม

2 กำหนด เป้าหมาย ให้ตรงกัน ระหว่าง ทีมงาน และนักกีฬา

เราวางเป้าหมายร่วมกัน ว่าจะใช้ตารางการออกกำลัง แบบ Balance

เพิ่มประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับสุขภาพที่ดี

แข่งกับตัวเอง ไม่ต้องแข่งกับใคร

เอาชนะตัวเอง ไม่ต้องเอาชนะใคร

พัฒนาไปเรื่อยๆ พร้อมฟังเสียงร่างกายตัวเอง พร้อมเบา และพร้อม หยุด เมื่อรางกายล้า หรือจะเกิดอันตราย

3 เริ่มเข้าการซ้อม

เราปูพื้นฐาน Basic Running ใน 3 เดือนแรก เพราะเราเชื่อว่าการวิ่งที่ถูกวิธี ถูกหลักการ ทำให้วิ่งได้ดี วิ่งได้สบาย และวิ่งได้เร็วกว่าเดิม โดยยังไม่ต้องลงคอร์ตหนักๆ ก็เปลี่ยนเป็นอีกคนได้

จัดท่าใหม่ รอบขาใหม่ การวิ่งใหม่

ที่ลดการใช้พลังงาน ลดการบาดเจ็บ

เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ

 

 

สิ่งที่พี่เดี่ยวพัฒนา ค่อยๆ เปลี่ยนไปในระยะ 3 เดือน

1. รอบขา จาก 184 เป็น 190 ครั้งต่อนาที
2. ความเร็ว Easy จาก Pace 7:21 เป็น 6:30
3. อัตราการเต้นของหัวใจ 173 ลดเหลือ 155 ครั้งต่อนาที ใน Easy pace
4. ความยาวก้าวจาก 0.75 เป็น 0.9 เมตร
5. ตัวเด้ง เพิ่มขึ้นบ้าง แต่ถ้าเทียบกับความเร็วที่เพิ่ม ถือว่า ratio ลดลง
6. การแช่ขาลดลง GCT 284 / 266 มิลลิวินาที

ครบ 3 เดือน ท่าวิ่งที่ได้ใส่เข้าไป เริ่มเป็นราก ที่แข็งแรง ค่อยๆ ฝังลึกลงไป พร้อมจะไปต่ออีกขั้น ผลิดอกออกผล เป็นต้นไม้ที่สวยงาม

4 ตรวจ ยีนกีฬา

พี่เดี่ยว ขอตรวจ Genetic เพื่อให้รู้จักตัวเองได้มากขึ้น รู้สิ่งที่เราไม่รู้ ระวังสิ่งที่เราไม่รู้

และผลักดันการซ้อมให้ เฉพาะตัวมากขึ้นกว่านาฬิกาออกกำลัง

สิ่งที่ได้

พี่เดี่ยวไม่มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของ โรคหลอดเลือดหัวใจ หัวใจเต้นผิดจังหวะ

เป็นคนที่มีความฟิต เทียบเท่าคนปกติ สามารถบิ้วได้สบาย

การฟื้นตัว Recovery สูงกว่าคนปกติ

ความเสี่ยงในการบาดเจ็บ ข้อเท้า เอ็นร้อยหวาย เข่า เท่ากับคนปกติ

แต่มีการเคลียร์ lactateไม่เก่ง

ข้อมูลที่ได้ส่งให้ทีมโค้ช เพื่อปรับการออกกำลัง ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การออกตารางการซ้อมให้เคลียร์ lactate ,ได้ดีขึ้น

5 เข้าสู่ speed Program 10 k การเพิ่มความเร็วให้การวิ่ง จากการฝึกซ้อม

ตารางการซ้อม ปรับให้เหมาะสมขึ้น และเข้าตาราง 10k

ในช่วงการซ้อม 10K ต้องทำให้ร่างกายมีความคุ้นชินกับการวิ่งที่ Zone สูงเป็นระยะเวลานาน จึงจำเป็นต้องฝึกซ้อมด้วย Interval, Tempo ตาม Style ของ Avarin  Smart Run  ซ้อมตรงจุด ไม่หนักไป เพื่อให้ร่างกายพัฒนาความเร็ว แบบไม่ล้าจนไปต่อมาได้

สิ่งที่พัฒนา

ร่างกาย ระบบหัวใจและระบบหายใจ มีความทนทานที่ความเร็วสูงมากขึ้น ทำให้ร่างกายแบกความหนักได้มากขึ้น

1 ความเร็ว เพิ่มขึ้น

2 HR ต่อความเร็วลดลง

3 สถิติ สามารถทำ 10K Sub 1 ได้สำเร็จ

4 ท่าวิ่งดีขึ้นจาก แคมป์ Basic สามารถ ทำ Lean Forward เทตัว ได้ดีขึ้นกว่าเดิม ทุกความเร็ว

จิตใจที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง จากความกลัว กังวลไม่กล้าออกกำลัง รวมถึงคนในครอบครัว ก็กังวลกลายเป็นการ ปลดล็อคการออกกำลัง สนุกในการออกกำลัง สุขภาพที่แข็งแรงขึ้นทีละนิด ทุกๆวัน

6 มุ่งหน้าไปสู่ แข่งระยะยาว มาราธอนแรกชองตัวเอง

เป้าของพี่เดี่ยว ก่อนเข้าแคมป์มาราธอน ครั้งแรกวิ่งเพื่อให้ชนะตัวเองว่าหายจากอาการป่วยแล้วกลับมาใช้ชีวิตปกติให้ได้ครับ ซึ่งใครจะคิดว่า มันจะเกิดขึ้นได้ ภายในปีเดียวของการกลับมาวิ่ง

เป้าของพี่เดี่ยว ใหญ่มาก ได้แก่การทำ sub 4 มาราธอนที่งานบางแสน 42

ซึ่งถือว่าเป็นสนามที่ไม่ง่าย มีทั้ง ความชัน เขา และ ลิง

พี่เดี่ยว ซ้อมไปเรื่อยๆ อย่างมีวินัย เพื่อจะพิชิตเป้าหมายนี้ให้ได้

สุดท้าย เราอยากบอกอีกครั้งว่า เราเชื่อว่า ทุกคนสามารถออกกำลังกายได้ ทุกเพศ ทุกวัย ทุกโรคประจำตัว แค่หาความลงตัวของการออกกำลังกายให้พอดี และดีพอ เราก็จะได้ประโยชน์จากการออกกำลังครับ

 

มาร่วมเชียร์, Avarin Next Runner คนที่ 1 พี่เดี่ยวกันนะครับ