วิ่ง​ Easy แล้ว​ HR​ ทะลุ​ Zone​ ต้องทำยังไง ??

วิ่ง​ Easy แล้ว​ HR​ ทะลุ​ Zone​ ต้องทำยังไง ??

ปูพื้น

การวัดความหนักของการออกกำลังกาย​ เฉพาะตัว​ ที่ดีที่สุด​ คือ​ การบอกด้วย​ % VO​2 Max​ คือเอานักกีฬามาทดสอบ​ Cpet.หาการใช้ออกซิเจนสูงสุด และ​ ซอยออกมาเป็นสัดส่วน​%. ความหนักในการออกกำลัง​ อันนี้เป็น​มาตรฐาน​ในการบอกความหนักของการออกกำลังกาย แต่นักกีฬาทุกคนไม่สามารถ​หา​ Vo2 Max​ ได้​ เพราะต้องใช้การตรวจทางห้องปฏิบัติการ​ Cpet ทุกคนจึงได้ค่า​ เราจึงวัดความหนักจากการออกกำลังกายวิธีอื่นที่ง่ายขึ้นได้หลายรูปแบบ​ อาทิ

  • %HR max เป็นตัวชี้วัดความหนักที่คนเข้าถึงได้ง่าย​ แค่มีนาฬิกาวัดชีพจร​ ก็บอกความหนักการออกกำลังได้​ แบ่งเป็น​ 1-5
  • ค่าความเหนื่อย​ หรือการใช้​ Talk ​test ก็เป็นบอกความหนักของการออกกำลังกายได้อีกรูปแบบ​ โดยใช้ความรู้สึกเป็นเกณฑ์
  • แม้กระทั่งการหา ความสามารถในการออกกำลังสูงสุด​ จากความเร็วการวิ่ง​ ก็จะได้ความหนักเป็น​ Pace​ zone

วิ่ง​ Easy มันคืออะไร

คือการวิ่งแบบเบาต่อเนื่อง​ การวิ่งที่อยู่ใน​ Zone​ Aerobic​ ล้วนๆ​ ยังไม่มี​ Anaerobic​ ไม่มีการเพิ่มของ​ Lactate ให้ร่างกายเคลียร์ไม่ทัน ร่างกายใช้พลังงานหลักจากไขมัน จึงทำให้ออกได้ยาวต่อเนื่องโดยไม่ล้า

ถ้าดูจาก​ Zone ออกกำลังคือ​ zone 2 ถึง​ Zone 3 ต้น (60-75% maxHR), 40-70% ของ​ Vo2max, ความเหนื่อยประมาณ​ 4-6 พูดเป็นประโยคได้ เช่นโจทย์​ วิ่ง​ Easy ที่​ Pace 6.00-6.30 HR.zone 2-3 เป็นต้น

ถ้ายังไม่เหนื่อย​ แต่​ HR ทะลุ​ Zone​ 4 ต้องเบาการวิ่งลงไหม​?

ต้องถามกลับว่า เป้าหมายการออกกำลัง​ คืออะไร?

สุขภาพ​, ประสิท​ธิภาพ​ หรือทั้งสองอย่าง​?

ถ้าประสิทธิภาพ ก็ต้องทำความรู้จัก​ Cardiac Drift ก่อน

Cardiac Drift คือ​ ข้อจำกัดที่​ ทำให้​ HR สูงกว่าค่าความหนักในการออกกำลังที่แท้จริง​

เราสังเกตได้ว่า​ เมื่อ​เราวิ่ง​ Easy​ ตอนแรก​ HR​ ก็อยู่ใน​ Zone.easy จริง​ (2-3ต้น​ )​ แต่พอวิ่งนานขึ้น​ โดยเฉพาะในอากาศร้อน​ HR จะค่อยๆขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆ​ จน​ HR อาจสูงไป​ Zone​ 4 ได้​ แต่ขณะนั้น​ เรายังวิ่งได้สบาย​ ความเหนื่อย​ ยังอยู่ 4-6 พูดเป็น​ประโยค

หลายคนเข้าใจว่า​ เราออกกำลังเกิน​ zone จนต้องลดความเร็วในการวิ่งลงโดยไม่จำเป็น​ และอาจเสียโอกาสในการออกกำลังให้ตรงเป้าหมาย

Cardiac Drift เกิดจาก​การที่หัวใจเต้นเร็วขึ้น ทั้งๆที่เราออกกำลังกายที่ความหนักเท่าเดิม​ สาเหตุหลักมาจาก​ อุณหภูมิ​ที่สูงขึ้นจากภายนอก​ และภายในร่างกาย​ การขาดน้ำ​ เป็นตัวเร่งให้​ หัวใจเต้นเร็วขึ้น​ เพื่อระบายความร้อนผ่านหลอดเลือด​ ดังนั้นเมื่อ​เกิด​ Cardiac​ Drift​ ​ให้ดูว่าความเหนื่อยยังอยู่ใน​ Easy​ หรือไม่​ ถ้าอยู่ก็สามารถวิ่งที่​ Pace​ นั้นต่อได้เลย​ แต่ถ้าเหนื่อยมากขึ้น​ ค่อยผ่อนคันเร่งลง​ เพื่อให้การออกกำลังตรงความหนักที่เราวางแผนไว้

Cardiac​ Drift​ จะเกิดลดลงในอุณหภูมิ​ที่เย็น​ เช่นวิ่งในห้องแอร์​ หรือวิ่งอากาศหนาว

ดังนั้นในแง่ประสิทธิภาพ​การซ้อม​ เราไม่ลดความเร็วลง​ เพราะ​HR ที่สูงขึ้นจาก​ Cardiac​ drift การยึดติด​ HR​ มันทำให้เราเสียโอกาส​ การพัฒนาประสิทธิภาพ​การวิ่ง​ ทำให้​ Base endurance ไม่ถูกยกขึ้น​ได้เร็ว อาจทำให้การพัฒนาการวิ่งช้าลง

อีกประเด็นใหญ่มากๆ​ คือ​ การใช้ค่า​ Maximum HR จากการคำนวณ​นาฬิกาโดยตรง​ ที่​ 220- อายุ​ ทำให้อาจได้ค่า​ Max HR ที่ต่ำเกินจริง​ ทำให้หัวใจหลุด​ Zone 4 ทั้งๆที่จริงๆ​ อาจอยู่แค่ Zone​ 3

นักวิ่งอาจอยู่ใน​ กับดัก​ วิ่ง​ Easy​ ที่ช้าเกินไป​ เป็น​ Junk mile น้อยๆ​ สำหรับสาย​ Performance

ถ้าเป้าหมายเราวิ่งเพื่อสุขภาพละ ต้องทำยังไง

เราอาจต้องดู​ HR.มากขึ้น?

การออกกำลังเพื่อสุขภาพ​ ในคนที่ไม่มีโรคประจำตัว​ หรือไม่มีความเสี่ยงโรคหัวใจ​ การออกกำลัง​ ควรอยู่​ ประมาณ​ Zone 2 ถึง Zone​ 4 หรือออกแบบ​ Moderate intensity (Zone 2-3 ต้น) ไป​จนถึง​ High intensity (Zone 3กลางๆ​-4) ดังนั้น​การวิ่งเพื่อสุขภาพ​ แต่ถ้าหัวใจทะลุ​ Zone 3ไปถึง​ Zone 4 ในคนที่แข็งแรง​ ก็ยังสามารถทำได้​ และ​ยิ่งได้ประโยชน์จากการออกกำลังเพิ่มขึ้น​ (ยังอยู่ใน​ Aerobic​ exercise) ความเหนื่อย​ 4-7 / 10, 60-90% Max HR หรือ​ 40-85% vo2max ถ้าถึง​ Zone 5 ควรผ่อนลงบ้าง​ (ถ้าตั้ง​ Zone HR​ ตรง)​

แต่คนที่มีโรคประจำตัว​ มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ​เยอะ​ การออกกำลังกาย​ ไม่เกิน​ Zone 3 กลาง​ๆ​ จะปลอดภัย​และลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนมากกว่า​ ถ้าต้องการออกหนักมากกว่านั้น​ Zone ​4 ขึ้นไป น่าจะทำการตรวจคัดกรองก่อน​ กลุ่มนี้ได้แก่​ คนที่มี เบาหวานนานๆ​ ความดัน​ ไขมันในเลือดสูง​ หรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ​ เป็นต้น

โรคปะทุ​ เมื่อหัวใจทำงานหนัก

แล้วหัวใจทำงานหนักขึ้นตอนไหน?

ตอนที่ออกกำลังหนักขึ้น​ หัวใจต้องเต้นเร็วขึ้น​ และบีบตัวแรงขึ้น​ เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงร่างกายเอาออกซิเจนให้ร่างกายเพียงพอ

แล้วในประเด็นที่หัวใจเต้นเร็ว​ จาก​ Cardiac drift เราถือว่าหัวใจทำงานหนักขึ้นมากใช่ไหม​?

ก็ต้องตอบว่ามากขึ้นทางอ้อม​ผ่านทางหัวใจที่เต้นเร็วขึ้น แต่ไม่มากเท่า​ ออกกำลังหนักจริง ปกติการที่หัวใจต้องทำงานหนักมากขึ้น​ คือการที่หัวใจต้องสูบฉีดเลือดมากกว่าปกติ​ จากหัวใจเต้นเร็ว​ และการบีบตัวที่แรงขึ้น

จากสูตร​

CO = SV x HR

CO – ​Cardiac output (จำนวนเลือดที่สูบฉีดผ่านหัวใจ)

SV – ​Stroke volume – ปริมาณเลือดต่อการบีบตัว​ 1 ครั้ง

HR – Heart rate อัตรการเต้นหัวใจ

แต่ในภาวะ​ Cardiac​ Drift ทำไม​ HR สูงขึ้น

เพราะ​ ร่างกายต้องการระบายความร้อน​ ให้ลดอุณหภูมิ​ลง​ ผ่าน​ 2 ทางคือ​ สร้างเหงื่อ​ลดอุณหภูมิ และผ่านทางการสูบฉีดเลือดไปร่างกายลดอุณหภูมิในอากาศร้อน​ สารน้ำในหลอดเลือด​ มีการไหลไปที่ผิวหนังมากขึ้น​ เพื่อทำให้อุณหภูมิ​เย็นขึ้น​ ซึ่งทำให้​ ปริมาณน้ำในหลอดเลือดลดลง​ รวมทั้งการขาดน้ำ​ (กินน้ำไม่พอ​ เสียเหงื่อเพิ่ม)​ ก็ยิ่งทำให้น้ำในหลอดเลือดลดลง​มากขึ้น​อีก เลือดจึงกลับเข้าหัวใจลดลง​ ( Preload ลดลง)​ ทำให้​ SV ปริมาณการบีบเลือดไปแต่ละครั้งน้อยลงตาม​ แต่ร่างกายต้องการให้ เลือดไปเลี้ยงร่างกายได้คงที่​ (Cardiac​ output) ก็เลยต้องปรับตัวให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น​ เพื่อ​ pump เลือดไปเลี้ยงได้พอ​ ทั้งๆที่การบีบตัวไม่ได้แรงขึ้นเลย​ จึงเป็นการทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นที่ไม่ได้มาจากการออกกำลังที่หนักขึ้นตรงๆ​ แต่แน่นอนว่าหัวใจก็น่าจะทำงานหนักขึ้น​จากการเต้นที่เร็วขึ้น​ แต่คงไม่หนักเท่า​ หัวใจที่เต้นเร็วจากการออกกำลังหนักจริง​ จึงน่าจะยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดข้อแทรกซ้อนต่อหัวใจในคนที่มีโรคซ่อนได้

ดังนั้นสรุปถ้าในแง่สุขภาพ​ เรายังให้น้ำหนัก​ หรือยังแคร์กับ​ HR ที่เพิ่มขึ้นจาก​ Cardiac​ drift อยู่บ้าง​ แม้จะยังออกแรงไม่มากเกินไป​ ถ้าคำแนะนำส่วนตัว​ เพื่อสุขภาพ​ ก็พยายามลดการเกิด​ Cardiac​ Drift​ ลง​จากกินน้ำให้สม่ำเสมอ​ เพียงพอ​ ถ้าทะลุ​ Zone​ 4 แล้วเริ่มเหนื่อย​อาจลด​ Pace​ ลงได้ให้เป็น​ Easy ที่สบายขึ้นครับ

วิธีการลด​ Cardiac​ Drift​ ก็คือดื่มน้ำให้พอ​ และ​ Cool down ร่างกาย​ เป็นระยะ​ โดยการหยอดน้ำน้อยๆ​ตามตัว​​ หัวใจก็เต้นช้าลง

สุดท้าย

ซ้อมเพื่อประสิทธิภาพ​ หัวใจทะลุ​ zone ความเหนื่อยเท่าเดิม​ วิ่งต่อไม่ลดความเร็ว​ เพื่อลดการเกิด​ Junk​ mile

เพื่อสุขภาพ​ ให้ความสำคัญเพิ่มขึ้น​ ทะลุ​ Zone​ 4 เหนื่อยขึ้นหน่อยๆ​ ยอมเบาลง​ ปลอดภัยกับหัวใจมากกว่าโดยเฉพาะในคนที่มีความเสี่ยง

ทั้งนี้ทั้งนั้น​ ต้องตั้งต้นที่​ ตั้ง​ Zone HR​ ตรงก่อนนะครับ

Cr. หมอแอร์

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า