“ทำไมบุรีรัมย์ถึงโหดกว่างานวิ่งที่อื่น” ค่า Sweat loss มีคำตอบ!

“ทำไมบุรีรัมย์ถึงโหดกว่างานวิ่งที่อื่น” ค่า Sweat loss มีคำตอบ!

รีวิววิ่งฮาร์ฟสามงานในรอบปี 2020-2021 ผ่านค่า Sweat loss

Sweat loss คือ “การหลั่งเหงื่อ” เมื่ออากาศรอบตัวมีอุณหภูมิสูงกว่า 32 องศา ร่างกายจะระบายความร้อนด้วยวิธีการนำความร้อน การพาความร้อน และการแผ่รังสีไม่ได้ดี ต้องอาศัยการระเหยของเหงื่อเป็นสำคัญ

ทำให้งานวิ่งฮาร์ฟของผมตลอด 1 ปีที่ผ่านมา มีความแตกต่างดังต่อไปนี้

“งานแรก” “เชียงใหม่มาราธอน” (8 FEB 2020) อัตราการสูญเสียเหงื่ออยู่ที่ 1.4 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าน้อยมากเพราะอากาศอยู่ที่ราวๆ 23 องศาเท่านั้น อากาศยิ่งเย็นหัวใจทำงานเบาสุดๆ ยิ่งเร่งยิ่งมันวิ่งสนุกมาก

“งานสอง” “บางแสน 21” (21 DEC 2020) อัตราการสูญเสียเหงื่ออยู่ที่ 1.6 กิโลกรัม สูงกว่าเชียงใหม่นิดหน่อย เพราะต้องแบกเป้ Medical Runner วิ่งไปด้วย ยิ่งวิ่งยิ่งสนุกเพราะอากาศเฉลี่ยที่ 24 องศา

“งานสาม” “บุรีรัมย์มาราธอน” (27 MAR 2021) ร่างกายผมสูญเสียน้ำและเกลือแร่อยู่ที่ 2.4 กิโลกรัม ถ้าเทียบกับบทความวิชาการแล้วเรามักบวกเพิ่มค่าประมาณการ Estimated เป็นค่าความเป็น Actual Sweat loss ไปอีก 0.5 กิโลกรัม

ค่าการเสียเหงื่อ แบบประมาณการและความเป็นจริง

งานวิ่งครั้งนี้ ผมมีสิทธิ์สูญเสียน้ำในร่างกายอยู่ที่ 3 กิโลกรัม คิดเป็น 4% ของน้ำหนักตัว ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่โหดมากๆ เพราะแค่ 1% ของน้ำหนักตัว ประสิทธิภาพของร่างกายจะยิ่งร่วงลงไประดับนึง

ไม่แปลกเลยที่เพื่อนๆ นักวิ่งทุกระดับจะเกิดอาการหม้อน้ำแห้ง หรือยางแตกระหว่างการวิ่ง ขนาดคุณ Por Nantiya เจ้าของที่หนึ่งบางแสน 21, บางแสน 42, หรือ เขาชะโงกซุปเปอร์มาราธอน มาบ่นกับผมว่า จะ DNF ตัวเอง เพราะตะคริวกินตอนกิโลเมตรที่ 19 ในบุรีรัมย์มาราธอนครั้งนี้

บุรีรัมย์มาราธอนระยะฮาร์ฟทำผมป่วนที่สุด เพราะตั้งแต่วิ่งมาตลอดชีวิตไม่เคยเหงื่อท่วมตัวตั้งแต่ 400 เมตรแรก ปัจจัยหลักคือ ณ เวลา 16:00 ก่อนปล่อยตัว 2 ชั่วโมงอุณหภูมิวัดได้ที่ 40 องศา!!! ตั้งแต่ผมเป็น Medical Runners มาไม่เคยเห็นคนหม้อน้ำแห้ง หรือ ยางแตก เท่างานนี้มาก่อน

แล้วคิดดูถ้าผมวิ่งระยะฟูล ผมมีสิทธิ์สูญเสียน้ำมากกว่า 5 ลิตรแน่นอน

เพื่อนๆ ที่วิ่งระยะมินิ ระยะฮาร์ฟ ระยะฟูล มีค่า estimate sweat เท่าไหร่กันบ้างครับ ผมกับหมอแอร์อยากรู้ ลองเอามาแชร์กันครับ

ดื่มน้ำเยอะๆ และเติมเกลือแร่ กลับด้วยนะครับ

งานหน้าผมไปลุยกำแพงเพชรฮาร์ฟมาราธอน เขาว่ากันว่างานนี้โหดกว่าบุรีรัมย์ไม่รู้จริงหรือไม่?

Cr. คุณฮอท Health Performance Team